เครื่องรีดน้ำแบบไหน เหมาะที่สุดสำหรับการบำบัดน้ำเสียในประเทศไทย?

– จากเครื่องกรองแบบแผ่นสู่ระบบสกรู –

ปัจจุบันในประเทศไทย นิยมใช้เครื่องรีดน้ำเสียแบบ ฟิลเตอร์เพรส เป็นหลัก
แต่ระบบนี้มีปัญหาใหญ่หลายประการ

เมื่อใช้งานไปเรื่อย ๆ ตะกอนแห้ง (Dry Sludge) จะสะสมภายในแผ่นกรอง
และเมื่อเข็มวัดแรงดันถึงระดับสีแดง จำเป็นต้องให้แรงงานคนเข้ามาขุดตะกอนออกและล้างแผ่นกรอง ซึ่งเป็นงานที่เหนื่อยและใช้แรงมาก

สำหรับโรงงานขนาดเล็กที่มีตะกอนน้อย การล้างทุก 2–3 วันอาจไม่เป็นปัญหา
แต่ในโรงงานขนาดกลางถึงใหญ่ที่มีตะกอนจำนวนมาก จะเจอปัญหา แรงงานไม่พอ และ ภาระงานเพิ่มขึ้นอย่างมาก

เราขอแนะนำ เครื่องรีดน้ำแบบสกรู ซึ่งทันสมัยและมีประสิทธิภาพกว่า

ระบบนี้ ไม่ใช้แผ่นกรอง ทำให้หมดปัญหาเรื่องการอุดตัน และไม่ต้องล้างด้วยมือ
ฟิลเตอร์รูปวงแหวนจะหมุนอัตโนมัติ พร้อมระบบ ล้างด้วยสายน้ำอัตโนมัติ

แม้ในโรงงานอาหารที่มีตะกอนปนไขมัน ก็ยังสามารถรีดน้ำได้อย่างมีเสถียรภาพ โดยไม่อุดตัน

เครื่องรีดน้ำแบบสกรูจะหมุนภายในกระบอก เพื่อบีบตะกอนออก
ตะกอนแห้ง ที่ได้จะตกลงไปใน ถุงผ้าขนาดใหญ่ (FIBC) อัตโนมัติ

เมื่อเต็มแล้ว ก็แค่เปลี่ยนถุงใหม่
ระบบเรียบง่าย ประหยัดแรงงาน

ในโรงงานหนึ่งที่นำไปใช้ ระบบมีความสามารถในการบำบัดดังนี้:

• ปริมาณน้ำเสียดิบ: 384 ตัน/วัน

• อัตราตะกอน: 20% → น้ำตะกอน 76.8 ตัน/วัน

• ตะกอนแห้ง: 2% → ประมาณ 1.5 ตัน/วัน

• ความชื้น: 87.5%

• น้ำที่ส่งกลับ: 76.8 – 1.5 = 75.3 ตัน/วัน (ผ่านเกณฑ์สิ่งแวดล้อม)

น้ำที่ส่งกลับสามารถปล่อยออกนอกโรงงานได้โดยไม่เกินกำลังของระบบ

• • สามารถตั้งเวลาการทำงานอัตโนมัติด้วยระบบตั้งเวลา

  • ใช้น้ำล้างน้อยมาก ช่วยลดต้นทุนการดำเนินงาน

  • รอบการเปลี่ยนอะไหล่:
    　- กระบอก (Cylinder): 15,000 ชั่วโมง
    　- สกรู (Screw): 30,000 ชั่วโมง

  • มี ตัวนับเวลาการทำงาน ในเครื่อง ช่วยตรวจสอบและบำรุงรักษาได้สะดวก